วิธีชำระเงิน iHerb ด้วยบัตรเดบิต

วิธีชำระเงิน iHerb


วิธีการชำระเงินค่าสินค้า iHerb มี 2 รูปแบบ
  1. ชำระผ่านบัตรเครดิต (Credit Card) หรือบัตรเดบิต (Debit Card) โดยอาจเป็นประเภท VISA หรือ MASTER CARD ก็ได้
  2. Paypal ซึ่งก็จะต้องผูกกับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เช่นกัน





บัตรเครดิต - บัตรเดบิตต่างกันอย่างไร


บัตรเครดิต คือ บัตรที่ผู้มีรายได้ (เช่น มีเงินเดือนประจำ) ยื่นสมัครกับธนาคารขอให้ออกบัตรเครดิต เพื่อใช้ชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ ในลักษณะให้สินเชื่อแบบมีวงเงินกำหนดไว้ โดยแต่ละธนาคารจะมีหลักเกณฑ์ในการอนุมัติบัตรเครดิตที่แตกต่างกัน

การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต เป็นการจ่ายเงินแบบที่ธนาคารชำระให้ก่อน แล้วเจ้าของบัตรจะต้องชำระเงินคืนให้แก่ธนาคารเมื่อถึงกำหนด

บัตรเดบิต คือ บัตรที่ผู้มีเงินฝากกับธนาคาร ยื่นสมัครขอให้ธนาคารออกบัตรเดบิต เพื่อใช้ชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ ในลักษณะหักเงินผ่านบัญชีธนาคารที่ผูกกับบัตรเดบิตไว้

การชำระเงินผ่านบัตรเดบิต เป็นการจ่ายเงินแบบที่ต้องมีเงินอยู่ในบัญชี เมื่อรูดบัตรหรือชำระเงินออนไลน์ ยอดเงินในบัญชีที่ผูกกับบัตรเดบิตไว้ จะถูกหักออกทันที



ทำไมจึงต้องใช้บัตรเดบิต ?


บัตรเดบิต (Debit Card) เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ยังไม่มีรายได้หรือเงินเดือนประจำ เพราะเพียงแค่มีบัญชีธนาคาร แล้วบอกเจ้าหน้าที่ว่าขอสมัครบัตรเดบิต ก็สามารถใช้บัตรเดบิตชำระค่าสินค้าทั้งในห้างสรรพสินค้า และร้านค้าออนไลน์ รวมทั้งสมัคร PayPal (ระบบการชำระเงินที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก)



ใช้บัตรเดบิตของธนาคารอะไรดี ?



หากคุณต้องการใช้บัตรเดบิตในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ เช่น ชำระเงินค่าสินค้า iHerb ขอแนะนำให้ใช้บัตรเดบิตของ 2 ธนาคาร ดังนี้
  1. บัตรเดบิตของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งมีชื่อว่า บัตรบีเฟริส Be1st
  2. บัตรเดบิตของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งมีชื่อว่า K-Web Shopping Card
ส่วนบัตรเดบิตของธนาคารอื่นๆ อาจใช้ชำระค่าสินค้าในประเทศได้ แต่อาจไม่รองรับการชำระเงินออนไลน์(โดยเฉพาะต่างประเทศ) ดังนั้น หากมีบัตรเดบิตของธนาคารอื่นๆ ขอให้ตรวจสอบกับธนาคารอีกครั้ง ว่าสามารถใช้ชำระเงินออนไลน์ได้หรือไม่



วิธีสมัครใช้บัตรเดบิต Be1st ของธนาคารกรุงเทพ



1. ไปที่ธนาคารกรุงเทพ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าต้องการสมัครบัตรเดบิต โดยให้เตรียมบัตรประชาชน และเงินสดสำหรับเปิดบัญชีและค่าธรรมเนียมบัตร โดยปกติ จะได้รับบัตรเดบิต Be1st ในวันนั้นทันที

2. เพื่อความสะดวกมากยิ่งขึ้น ขอแนะนำให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าต้องการสมัครบริการ ไอแบงก์กิ้ง (ibanking) ซึ่งเป็นบริการที่สามารถดูข้อมูลบัญชี โอนเงินและบริการอื่นๆ ผ่าน Internet ได้

** ขั้นตอนที่ 2 นี้ไม่จำเป็นสำหรับการสั่ง iHerb แต่ช่วยให้เกิดความสะดวกในการตรวจสอบเงินบัญชีผ่านระบบออนไลน์

3. ทำการ Verified by Visa

Verified by VISA คือ บริการที่ธนาคารร่วมกับ VISA International ใช้เพิ่มความปลอดภัยในการชำระค่าสินค้าและบริการออนไลน์ โดยเมื่อทำการสั่งซื้อสินค้า ระบบจะส่งรหัสลับ (OTP: One-Time Password) ให้แก่เจ้าของบัตรผ่าน SMS

โดยทั่วไป การชำระเงินออนไลน์ผ่านบัตรเดบิต มี 2 แบบ คือ
  • แบบที่ต้องการรหัสลับ OTP ซึ่งต้องทำการ Verified by Visa
  • แบบที่ไม่ต้องการรหัสลับ OTP จึงไม่ต้องทำการ Verified by Visa

หากต้องการสมัคร Verified by Visa สามารถเข้าไปชมขั้นตอนการสมัครได้ที่เว็บไซต์ของธนาคารกรุงเทพโดยตรงที่ สาธิตวิธีการสมัครใช้บริการบัวหลวง ไอเพย์ ด้วยบัตรเครดิตและบัตรบีเฟิสต์ โดยเลือกที่หัวข้อ "วิธีสมัครใช้บริการบัวหลวงไอเพย์แบบ OTP ด้วยบัตรเดบิตบีเฟิสต์ธนาคารกรุงเทพ"

** ขั้นตอนที่ 3 นี้อาจไม่จำเป็นสำหรับการสั่ง iHerb เพราะ iHerbใช้ระบบปกป้องข้อมูลบัตรโดยมีการเข้ารหัส 256 บิต (256-bit encryption) นอกจากนี้ iHerb ยังใช้ระบบ tokenization ซึ่งเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ดำเนินการโดย Apple Pay คุณจึงมันใจได้ว่าข้อมูลบัตรจะได้รับการปกป้องอย่างสูงสุด

เมื่อได้บัตรเดบิต Be1st ของธนาคารกรุงเทพ แล้ว ขอแนะนำให้ลองใช้สั่ง iHerb ดูก่อนว่า สามารถสั่งได้หรือไม่ หากไม่ได้ ให้ทำการ Verified by Visa